

==================================================================
สวัสดีทุกท่านอีกครั้งครับ...สำหรับการเปิดหน้าเวปไซต์ย่อยอีกแห่งหนึ่งในส่วนของ "ThaiFOREX2U Group" เพื่อใช้เป็นที่ชี้แนะแนวทาง หรือให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องของ E-Currency โดยแยกออกมาเฉพาะจากเวปหลัก เพื่อให้สะดวกมากยิ่งขึ้นต่อการเลือกศึกษาข้อมูลในเรื่องนี้โดยตรง ต้องออกตัวไว้สักนิดนึงก่อนนะครับ..ว่า ข้อมูลส่วนใหญ่ในเวปย่อยนี้ คัดลอกมาเกินครึ่งครับ แต่ก็ยกเครดิตให้กับเจ้าของที่มาทุกที่ด้วยอย่างดีไม่มีตกหล่น...จึงขอขอบคุณทุกท่านเอาไว้ในที่นี้ด้วยครับ...
e-currency คืออะไร ?
currency คืออะไร..... e-currency ย่อมาจาก eletrical currency หรือมีอีกความหมายใกล้เคียงให้เรียกอีก อาทิ เช่น e-money electronic cash, electronic currency, digital money, digital cash หรือ digital currency ซึ่ง e-currency ก็คือ สกุลเงินที่ใช้สำหรับ ทำธุรกรรมการเงินทางอินเตอร์เน็ตนั้นเอง
ประวัติความเป็นมา
แรกเริ่มเดิมที คนเราใช้เงินสดในการซื้อขายแลกเปลี่ยน ซึ่งเป็นการค้าขายที่ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถเห็นสินค้าได้โดยตรงและมีการชำระเงินแลกเปลี่ยนสินค้ากันด้วยเงินสด ทั้งนี้จึงมีข้อจำกัดของขอบเขต ในการชำระเงิน ต่อมาได้มีระบบการธนาคารเข้ามาเป็นตัวกลางสำหรับการชำระเงิน แลกเปลี่ยนสินค้า หรือการส่งเงินได้เป็นอย่างดี จึงทำให้การชำระเงินและแลกเปลี่ยนสินค้าขยายวงกว้างออกไปได้อีก แต่ข้อจำกัดคือ ระยะเวลาที่ล่าช้าและค่าธรรมเนียมที่สูง
ต่อมา เมื่อระบบอินเตอร์เน็ตเป็นที่นิยม จึงได้นำ ระบบการทำธุรกรรมร่มกับระบบอินเตอร์เน็ต ทำให้บริษัทหลายบริษัทตั้งตัวเป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างเงินสดกับเงินออนไลน์ จึงเกิดมี
ประเภทของ e-currency
เราสามารถแบ่งประเภทของ e-currency ต่างๆ ได้จากระบบของฝากและการถอนเงินเพื่อเปลี่ยนเป็น e-currency นั้น ได้ดังต่อไปนี้
ระบบ direct payment
ระบบของ e-currency ที่ใช้นั้น จะทำการผูกบัญชี e-currency ไว้กับบัญชีธนาคาร หรือบัตรเครดิตการ์ด ผ่านธุรกรรมทางธนาคาร โดยสามารถนำเงินจากบัญชีธนาคารของเราแล้วเปลี่ยนให้เป็น e-currency นั้นได้โดยตรง หรือในทางกลับกัน สามารถถอนจำนวนเงินที่มีอยู่ใน e-currency นั้นๆ สู่บัญชีธนาคารของเราได้โดยตรงเช่นกัน e-currency เหล่านี้ได้แก่ Paypal , Moneybookers , Clickandbuy, Alertpay , Webmoney,และ Neteller
ระบบ Third Party
ระบบของe-currency ที่ใช้นั้น จะต้องทำการซื้อขาย e-currency ผ่านตัวแทนต่างๆ เพื่อแลกเปลี่ยนเงินจากบัญชีธนาคารของเราเป็น e-currency ชนิดนั้นๆ ซึ่งตัวแทนแต่ละที่นั้นก็มีค่าธรรมเนียมการ ซื้อขายที่แตกต่างกันไป e-currency เหล่านี้ได้แก่ e-gold , e-bullion , Liberty Reserve ,Pecunix, c-gold และ e-dinar
มูลค่าขึ้นกับราคาทองคำ ได้แก่ e-gold , c-gold ,e-bullion, Pecunix และ e-dinar
มูลค่าไม่ขึ้นกับราคาทองคำ ได้แก่ Liberty Reserve , e-bullion
โดยการที่ e-currency ที่ขึ้นกับราคาทองคำนั้น หมายความว่า ถ้าค่าทองในตลาดโลกมีมูลค่ามากขึ้น ค่าเงินใน e-currency ชนิดนั้น ก็จะมีมูลค่ามากขึ้นตามเช่นกัน ในทำนองเดียวกัน ถ้าค่าทองในตลาดโลกลดลง ค่าเงินที่เรามีอยู่ ก็จะลดลงเช่นกัน และยังมี e-currency บางชนิดเช่น e-bullion สามารถเลือกใช้ได้ทั้งมูลค่าที่ขึ้นกับราคาทองคำ หรือ ไม่ขึ้นกับราคาทองคำ
ระบบ Pre-paid Card
ระบบนี้ จะคล้ายๆ เป็นบัตรเติมเงิน ซึ่งเราต้องนำเงินสดไปซื้อบัตร หรือสลิปมาจากตัวแทนจำหน่าย โดยในโซนยุโรปนั้นสามารถหาซื้อได้ง่าย ตามร้านมินิมาร์ททั่วไป หรือตามตู้ขายบัตรอัตโนมัติ โดยที่ ในการ์ดหรือสลิปแต่ละใบ จะประกอบไปด้วยมูลค่าเงินที่เราซื้อ และรหัสเพื่อนำมากรอกในบัญชี e-currency ของเรา เป็นการเติมเงินในบัญชีโดยผ่านบัตร นั้นเอง e-currency เหล่านี้ได้แก่ Ukash , Paysafecard และ CashU โดยที่ e-currency ในระบบ direct payment บางตัว ก็สามารถเติมเงินหรือฝากเงินเข้าบัญชีได้โดยอาศัย Pre-paid Card เช่นกัน ได้แก่ Webmoney
(ขอขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล www.e-currencystore.com )